เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเมืองไทยนั้นมี 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน ฤดูร้อนมาก และฤดูร้อนที่สุด ฉะนั้นการจอดรถตากแดดเป็นระยะเวลานาน นั่นหมายความว่ารถของคุณจะแปลงร่างกลายเป็นเตาอบดี ๆ นี่เอง อุปกรณ์สิ่งของต่าง ๆ ที่ลืมทิ้งไว้ หรือตั้งใจเก็บไว้ในรถ อาจทำปฏิกิริยากับอากาศที่ร้อนระอุจนเกิดอันตรายต่อรถคันโปรดหัวแก้วหัวแหวนของคุณได้ ซึ่งหากคุณไม่ได้ซื้อ ประกัน รถยนต์ชั้นหนึ่งไว้ ความคุ้มครองที่ไม่ครอบคลุมทำให้ต้องเสียเงินซ่อมรถเอง หรือบางกรณีอาจรุนแรงจนไม่สามารถซ่อมได้เลยก็เป็นได้ วันนี้เราจึงมาแบ่งปันข้อมูล 6 ของที่ห้ามเก็บหรือลืมทิ้งไว้ในรถโดยเด็ดขาด หากคุณไม่อยากพบกับความเสียหายที่ไม่อาจคาดเดา
1. ไฟแช็ก หรือน้ำมันก๊าด
วัตถุไวไฟที่แสนจะอันตรายเมื่อรถของคุณจอดอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน เพราะน้ำมันก๊าดในไฟแช็กจะทำปฏิกิริยากับอากาศที่ร้อนระอุ อุณหภูมิที่สูงเป็นสิ่งเร้าชั้นดีที่จะทำให้ไฟแช็ก หรือน้ำมันก๊าดเกิดระเบิดขึ้น จนสร้างความเสียหายรถไฟไหม้จนไม่สามารถซ่อมได้ รวมถึงอาจเกิดเหตุรุนแรงลามไฟลามไปติดรถ ต้นไม้ บ้าน หรือสิ่งอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียง กลายเป็นเหตุอัคคีภัยที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง และยังรวมไปถึงแอลกอฮอล์ หรือเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือด้วย
2. กระป๋องสเปรย์
ไม่ว่าจะเป็นกระป๋องสี หรือกระป๋องสเปรย์แต่งผม ที่ภายในบรรจุสารเคมีเหลวไว้เต็มกระป๋อง โดยอุบัติเหตุที่อาจเกินจะใช้หลักการเดียวกันกับไฟแช็กและน้ำมันก๊าด คือ อุณหภูมิภายนอกที่ไหลเข้าสู่ภายในรถขณะตากแดด จะทำปฏิกิริยากับสารเคมีเหลวจนประป๋องเริ่มบวม และระเบิดในที่สุด ซึ่งเป็นสาเหตุของเหตุเพลิงไหม้ หรือถ้าโชคดีหน่อยก็อาจทำให้กระจกรถแตกจากการระเบิด ซึ่งความรุนแรงนั้นก็ยากที่จะคาดเดา
3. น้ำแข็งแห้ง (Dry ice)
หนึ่งในของเล่นทางวิทยาศาสตร์ที่พบมากในตู้ไอศกรีม มีสรรพคุณในการรักษาอุณหภูมิ จึงมักถูกนำมาแช่ของสดจนอาจลืมทิ้งไว้ในรถก็เป็นได้ ของที่ให้ความเย็นจนหลาย ๆ คนคาดไม่ถึงว่าจะเป็นอันตรายหากนำไปวางทิ้งไว้บนรถ ซึ่งอันตรายนี้สามารถเกิดขึ้นได้แม้คุณจะจอดรถไว้ในที่ร่ม เพราะเมื่อน้ำแข็งแห้งถูกทิ้งไว้นาน ๆ จะเกิดการระเหิด และทำการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ซึ่งหากคุณเผลอสูดดมเข้าไป จะทำให้หมดสติขณะขับขี่อย่างไม่รู้ตัว เป็นอันตรายทั้งกับตัวคุณเอง และเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน
4. ขวดแก้วบรรจุนม
หลาย ๆ คนน่าจะเคยเห็นข่าว ขวดแก้วบรรจุนมระเบิดในรถที่จอดอยู่ภายในร่ม ทั้ง ๆ ที่รถไม่โดนแดดแท้ ๆ แต่ทำไมขวดกลับระเบิดจนสร้างความเสียหายได้อย่างน่าตกใจ ทั้งนี้ก็เพราะนมที่บรรจุอยู่ในขวดแก้วนั้น เมื่อปล่อยทิ้งไว้นานจนเน่าเสีย นมที่เสียจะค่อย ๆ ปล่อยแก๊สออกมา จนถึงจุดหนึ่งแรงดันของแก๊สจะทำให้ขวดระเบิด และด้วยบรรจุภัณฑ์ที่เป็นขวดแก้ว ทำให้อันตรายที่เกิดรวมถึงความเสียหายที่ได้รับเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในกรณีนี้หากคุณไม่ได้ซื้อประกันรถยนต์ชั้นหนึ่งไว้ ความคุ้มครองที่ไม่ครอบคลุมอาจทำให้เงินในประเป๋าบางลงไปถนัดตา
5. ขวดน้ำพลาสติก
แม้จะเป็นน้ำเปล่าที่ภายในไม่ได้มีการอัดแก๊สใด ๆ แต่หากขวดน้ำพลาสติกถูกเก็บไว้ในที่ ๆ มีอุณหภูมิสูงมาก ๆ อย่างภายในรถที่จอดตากแดด การหักเหของแสงแดดที่มากกระทับกับน้ำภายในขวด อาจก่อให้เกิดประกายไฟ เหมือนการทดลองใช้แว่นขยายจุดไฟอย่างไรอย่างนั้น จนทำให้รถคันโปรดของคุณเกิดเพลิงไหม้และเป็นอันตรายยิ่งขึ้นหากไหม้ลามไปจนถึงถังน้ำมัน
6. แบตเตอรี่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
เหตุผลเดียวกันกับข้อห้ามของสายการบินที่ไม่อนุญาตให้นำแบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) โหลดใต้ท้องเครื่อง เพราะแบตเตอรี่มีสารลิเธียมไอออน (Lithium Ion) ซึ่งเป็นโลหะไวไฟต่อปฏิกิริยาเคมีมาก และสามารถเกิดการลัดวงจรหากเจอความร้อนที่สูง จนเกิดการระเบิดในที่สุด
ต้องท่องจำให้ขึ้นใจกับของต้องห้ามทั้ง 6 ข้อที่นำมาฝากกันในวันนี้ จดและจำเอาไว้ว่าห้ามลืมวางทิ้งไว้บนรถอย่างเด็ดขาด หากคุณไม่อยากเสียทั้งเงินและเวลาในการซ่อมรถภายหลัง ซึ่งหากคุณเลือกที่จะซื้อประกันรถยนต์ชั้นหนึ่งไว้สำหรับคุ้มครองตัวเองไปพร้อมกับยานพาหนะคู่ใจ ก็สามารถวางใจได้ไปเปราะหนึ่งว่าหากเกิดเหตุร้ายที่ไม่คาดฝันใด ๆ ขึ้น อย่างน้อยคุณก็ยังมีผู้ช่วยคอยจัดการดูแล ไม่ต้องมานั่งปวดหัวแก้ปัญหาด้วยตัวเองอยู่เพียงลำพัง